ผ่า 5 ทีมจากเอเชียลุยเวิล์ดคัพ 2018
มหกรรมกีฬาของมวลมนุษยชาติอย่างศึกฟุตบอลโลก 2018 ที่ประเทศรัสเซีย นั้นกำลังจะเริ่มต้นขึ้นในอีกไม่กี่ชั่วโมงข้างหน้านี้แล้ว หากคนต่างมองไปที่บรรดาทีมยักษ์ใหญ่ตัวเต็งที่จะคว้าแชมป์อย่าง “แซมบ้า” บราซิล, “อินทรีเหล็ก” เยอรมัน ที่จะสามารถรักษาบัลลังก์ของตัวเองเอาไว้ได้หรือไม่ และ “ฟ้าขาว” อาร์เจนติน่า
แต่วันนี้เราจะมาพูด 5 ตัวแทนจากทวีปเอเชียของเราที่ผ่านเข้าไปเล่นในศึกฟุตบอลโลก 2018 รอบสุดท้ายที่ประเทศรัสเซีย ขอเริ่มจากทีม “เศรษฐีน้ำมัน” ซาอุดิอาราเบีย กันก่อนที่ผ่านเข้ามาเล่นในรอบสุดท้ายเป็นครั้งแรกในรอบ 12 ปี
โดยพวกเขาอยู่ในกลุ่มเอ ร่วมกับ เจ้าภาพรัสเซีย, อุรุกวัย และ อิยิปต์ ซึ่งถือว่าหนักเลยทีเดียวถ้าดูจากตรงนี้ ซึ่งเกมแรกของพวกเขาคือการพบกับ เจ้าภาพอย่างรัสเซียในวันพฤหัสบดีนี้
ซึ่ง ซาอุดิอาราเบีย ภายใต้การคุมทีมของ โค้ชคนใหม่อย่าง ฆวน อันโตนิโอ ปิซซี่ ต้องบอกว่าเทรนเนอร์ชาวสเปนรายนี้ไม่ได้ทำทีมตั้งแต่รอบคัดเลือกเขาเข้ามารับงานเมื่อเดือนพฤษภาคมปี 2017 หลังจากที่ทีมผ่านเข้ารอบสุดท้าย ซึ่งมีเวลาก่อนลุยของจริงประมาณ 1 ปี
ภายใต้การคุมทีม ปิซซี่ ซาอุดิอาราเบีย ชุดนี้เรียก 23 นักเตะเข้ามาซึ่งส่วนใหญ่เป็นผู้เล่นที่ค้าแข้งอยู่ในประเทศของตัวเอง โดยมี โอซาม่า เฮาซาวี่ เป็นกัปตัน ส่วนผู้เล่นที่น่าจะฝากความหวังในชุดนี้คือ ยาห์ย่า อัล-เชห์รี่ ที่เล่นอยู่กับ เลกาเนส ในสเปน ริมไปถึงริมเส้นตัวจี๊ดอย่าง ฟาฮัด อัล-มูวัลลัด ที่อยู่กับ เลบานเต้ และที่ขาดไม่ได้เลยคือหัวหอกดาวซัลโวของทีมอย่าง โมฮาเหม็ด อัล-ซาห์ลาวี่
ถ้าดูจากขุมกำลังแล้วต้องยอมรับว่ายังเป็นรองอีก 3 ทีมร่วมกลุ่ม เกมแรกที่จะประเดิมสนามกับ รัสเซีย ถือว่าสำคัญมากๆ แต่ถ้าให้ฟันธงการมีแต้มกลับบ้านก็ถือเป็นเรื่องพอใจสำหรับพวกเขาแล้ว
ต่อมาคือ อิหร่าน ชุดนี้ทีมคุมทีมโดย คาร์ลอส เครอซ กุนซือมากประสบการณ์ ความพร้อมของทีมถือว่าดีเลยทีเดียว นำทัพโดยกัปตันทีมอย่าง มาซุด โชจาอี รวมไปถึงนักเตะเอเชียคนแรกที่เป็นดาวซัลโงใลลีกยุโรปอย่าง อลิเรซ่า ยาฮานบาคช์
แต่น่าเสียดายที่พวกเขาต้องอยู่ในกลุ่มบี ต้องเจอกับทีมอย่าง สเปน, โปรตุเกส และ โมร็อคโก ซึ่งแน่นอนโอกาสในการเบียดเข้ารอบ 16 ทีมสุดท้ายมีน้อยจริงๆ
ขยับมาที่ ออสเตรเลีย กันบ้างหลายคนอาจจะสงสัยว่า ออสซี่ ใช่เอเชียเหรอ จริงๆไม่ใช่หรอก แต่พวกเขามาคัดเลือกในทวีปของเรา ออสเตรเลีย ชุดนี้ได้ เบิร์ต ฟาน มาร์ไวจ์ค ที่ลาออกจากซาอุดิอาราเบีย เข้ามาคุมทีมแทน อังเกลอส ปอสเตโคกลู ที่พาทีมเข้ารอบสุดท้าย แต่ผลงานไม่น่าพอใจเท่าไหร่ เนื่องจากต้องไปเพลย์ออฟกับ ฮอนดูรัส กว่าจะผ่านเข้ามาได้
ชุดนี้ยังนำโดยกัปตันอย่าง ไมล์ เยดินัค รวมไปถึงตัวเก๋าอย่าง ทิม เคฮิลล์ ก็ติดทีมมาด้วย โดยอยู่ในกลุ่มซี ร่วมกับ ฝรั่งเศส, เดนมาร์ก และ เปรู ดูแล้วน่าจะมีลุ้นในการเข้ารอบ 16 ทีมสุดท้ายไม่น้อย ซึ่งถ้าดูจากมาตรฐานคงต้องไปวัดกับ เดนมาร์ก และ เปรู ถือว่ามีโอกาสพอสมควร
ถัดมาคือเกาหลีใต้ ที่เคยสร้างเซอร์ไพรส์เมื่อปี 2002 ด้วยการเข้าถึงรอบตัดเชือก ในฟุตบอลโลกหนนี้พวกเขาอยู่ในกลุ่มเอฟ ร่วมกับทีมแชมป์โลกสมัยล่าสุดอย่าง เยอรมัน รวมไปถึง เม็กซิโก และ สวีเดน จัดการเป็นกรุ๊ปออฟเดธเลยทีเดียว
โดยชุดนี้ใช้ คิม แต ยอง คุมทีม ผู้เล่นตัวหลักที่นำทัพคือ คี ซุง ยอง, คู จา โซล และ ซอน เฮือง มิน แนวรุกจากสเปอร์ส รวมไปถึงดาวรุ่งที่เคยเป็นเยาวชนของบาร์เซโลน่าอย่าง ลี ซึง วู วัย 20 ปีก็ติดเข้ามาด้วยเช่นกัน
ถ้ามองดูจากโอกาสแล้วรอดยากเหลือเกินสำหรับกลุ่มนี้ ต้องบอกว่าทุกทีมนั้นมาตรฐานดีกว่าทั้งหมด คราวนี้พวกเขาอาจจะหยุดแค่รอบแรกพนันบอล
มากันที่ทีมสุดท้ายในครั้งนี้ซึ่งเชื่อว่าหลายคนก็กำลังเอาใจช่วยกันอยู่ คือ “ซามูไร” ญี่ปุ่น พวกเขาเป็นอีกหนึ่งชาติจากเอเชียที่แยกทางกับโค้ชก่อนบอลโลกจะเริ่มต้นขึ้น โดย วาฮิด ฮาลิลฮ็อดซิช ต้องกระเด็นออกไป พร้อมกับให้ อากิระ นิชิโนะ เข้ามาคุมทีมลุยบอลโลก
ขุนพลทัพซามูไรอยู่ในกลุ่มเอช ร่วมกับ โคลอมเบีย, โปแลนด์ และ เซเนกัล ซึ่งต้องบอกว่าเป็นกลุ่มที่น่าสู้กันได้สนุกที่สุด เนื่องจากเทียบจากผลงานตัวผู้เล่นนั้นสูสีกันเหลือเกิน เรียกได้ว่าออกได้ทุกหน้าเลยทีเดียว เพราะญี่ปุ่นชุดนี้ก็อุดมไปด้วยผู้เล่นที่ค้าแข้งในยุโรปเรื่องของประสบการณ์ไม่น่าจะมีปัญหาอยู่แล้ว
ถ้าวิเคราะห์กันจากตรงนี้ ญี่ปุ่น น่าจะเป็นทีมจากเอเชีย ที่มีโอกาสได้ลุ้นเข้ารอบน็อกเอาท์มากที่สุด แต่อย่างไรก็ตามต้องดูการเปิดสนามเกมแรกที่จะพบกับ โคลอมเบีย ว่าจะออกมาเป็นอย่างไร
นี่คือโอกาสและความพร้อมของ 4 ประเทศตัวแทนจากทวีปเอเชีย ในศึกฟุตบอลโลก 2018 รอบสุดท้ายที่รัสเซีย ยังไงในฐานะที่เป็นคนทวีปเดียวกันก็ส่งแรงใจไปเชียร์พวกเขากันซะหน่อย