เวส มอร์แกน ปราการหลัง กัปตัน เลสเตอร์ ซิตี้“จิ้งจอกสีน้ำเงิน” สโมสรแกร่งในศึก พรีเมียร์ลีก อังกฤษ เตรียมที่จะรีไทร์อาชีพค้าแข้งหลังจบฤดูกาลนี้ หลังเป็นส่วนหนึ่งในการพาทีมประสบความสำเร็จในซีซันนี้ด้วยการคว้าแชมป์ เอฟเอ คัพ ไปครองได้เป็นครั้งแรกในประวัติศาสตร์ของสโมสร
ขณะที่ “คุณต๊อบ” อัยยวัฒน์ ศรีวัฒนประภา ออกมายกย่องว่า ดาวเตะวัย 37 ปี เป็นหนึ่งในกำลังสำคัญที่พาทีมไปสู่ยุครุ่งเรืองตลอดหลายปีที่รับใช้สโมสร
สามารถติดตามข่าวสารวงการฟุตบอลได้ที่ ลิ้งดูบอล.com เว็บไซต์สำหรับคอบอลโดยตรง และสำหรับผู้ที่ต้องการร่วมทายผลบอลออนไลน์ สามารถสมัครได้ที่ ufabet แทงบอลออนไลน์ เว็บตรงมั่นคง100%
สมศักดิ์ศรี! เวส มอร์แกน กัปตัน เลสเตอร์ ประกาศแขวนสตั๊ดหลังจบฤดูกาลนี้
- โตริโน่ ปิดดีลคว้า “วาเลนตีโน่ ลาซาโร่” วิงแบ็ก อินเตอร์ มิลาน สัญญา 4 ปี
- อาร์เซน่อล เมินข้อเสนอ งูใหญ่ ขอซื้อ “บาโลกุน” เสริมทัพซัมเมอร์นี้
- อินเตอร์ มิลาน เล็งคว้า “คาร์เนเซ็คคี่” นายด่าน อตาลันต้า เสียบตำแหน่ง
เวส มอร์แกน ลงสนามให้ เลสเตอร์ ไปทั้งสิ้น 323 นัด ทำได้ 14 ประตู มอร์แกน เซ็นเตอร์แบ็กกัปตันทีมวัย 37 ปี ของทีม “จิ้งจอกสีน้ำเงิน” เลสเตอร์ ซิตี้ ประกาศแขวนสตั๊ดหลังจบฤดูกาลนี้ หลังอยู่รับใช้ต้นสังกัดมาตั้งแต่ปี 2011 รวมแล้วกว่า 10 ฤดูกาลเต็ม
ลงสนามให้ เลสเตอร์ ไปทั้งสิ้น 323 นัด ทำได้ 14 ประตู รวมทุกรายการ นอกจากนี้ เจ้าตัวยังได้รับเลือกให้ทำหน้าที่เป็นสมาชิกบอร์ดบริหารของสมาคมนักฟุตบอลอาชีพอังกฤษ (พีเอฟเอ) อีกด้วย
โดย “คุณต๊อบ” อัยยวัฒน์ ศรีวัฒนประภา ปาะธานสโมสร เลสเตอร์ ซิตี้ กล่าวยกย่องดาวเตะชาวจาไมกาผ่านเว็บไซต์ของสโมสรว่า เป็นหนึ่งในนักเตะที่นำทีมไปสู่ยุครุ่งเรืองในหน้าประวัติศาสตร์ของสโมสร “เวส มอร์แกน เป็นหนึ่งในนักเตะที่รับใช้ เลสเตอร์ ซิตี้ ได้อย่างยอดเยี่ยมมาโดยตลอด เป็นหนึ่งในกำลังสำคัญที่พาทีมไปสู่ยุครุ่งเรืองมากที่สุดของสโมสร และช่วยยกระดับมาตรฐานในการผลักดันสโมสรให้ก้าวไปข้างหน้า”
สำหรับ เวส มอร์แกน ย้ายจาก น็อตติ้งแฮม ฟอเรสต์ มาค้าแข้งในถิ่น คิง เพาเวอร์ สเตเดี้ยม ด้วยค่าตัวราว 1 ล้านปอนด์ หรือประมาณ 44 ล้านบาท เมื่อเดือนมกราคม ปี 2012 พร้อมทั้งได้รับเลือกให้รับหน้าที่สวมปลอกแขนกัปตันทีมตั้งแต่ซีซัน 2012/2013 และยังเป็นกำลังสำคัญช่วย “จิ้งจอกสีน้ำเงิน” คว้าแชมป์ เดอะ แชมเปียนชิป ในซีซัน 2013/2014 เลื่อนชั้นมาเล่นในเวที พรีเมียร์ลีก ได้สำเร็จ ก่อนจะสร้างเทพนิยายด้วยการพาทีมคว้าแชมป์ พรีเมียร์ลีก ฤดูกาล 2015/2016 ไปครองได้อย่างยิ่งใหญ่ และเป็นส่วนหนึ่งในการพาทีมคว้าแชมป์ เอฟเอ คัพ ฤดูกาลนี้ได้สำเร็จอีกด้วย
