เป็นการแข่งขันฟุตบอล ปรีซีซั่นนัดแรกของ อาร์เซนอล ที่แข่งขันกันที่ประเทศสหรัฐอเมริกา แต่เป็นเกมที่ 2 ในปรีซีซั่น ทีมปืนใหญ่ ทำผลงานได้อย่างสวยหรู โดยสามารถเอาชนะทอฟฟี่สีน้ำเงิน ไปได้ 2 ประตูต่อ 0 โดยทางผู้จัดการทีม มิเกล อาร์เตต้า จัดผู้เล่นชุดใหญ่เกือบทั้งหมดออกสตาร์ทเกม โดยเปลี่ยนบางตำแหน่ง แต่ก็ยังถือว่าเป็นผู้เล่นชุดใหญ่ โดยวางแผนการเล่นในรูปแบบที่ถนัดคือ 4-2-3-1 มีนักเตะใหม่ กาเบรียล เซซุส เป็นหน้าเป้า ในเกมครึ่งแรก อาเซนอล ครองเกมได้มากกว่า มีความอันตราย และมีโอกาสที่จะทำประตูเล่นมากกว่าคู่แข่ง มีการ เพรสซิ่ง ไล่บอล อย่างเป็นระบบ จนทำให้คู่แข่ง ไม่สามารถออกบอล เล่นบอลในจังหวะของตัวเอง และในนาทีที่ 33 ทีมปืนใหญ่ก็สามารถขึ้นนำ เอฟเวอร์ตันไปก่อนจาก กาเบรียล เซซุส และต่อมาอีก 3 นาที ก็ออกนำเป็น 2 ประตูต่อ 0 โดยได้ประตูจาก บูกาโย ซาก้า และจบครึ่งแรกไปด้วยสกอร์ 2-0 โดยเกมในครึ่งแรก อาร์เซนอลจะเหนือกว่า เอฟเวอร์ตัน อย่างเห็นได้ชัด
ช่วงครึ่งหลัง “อาเซนอล” เปลี่ยนแผนการเล่นฟุตบอล ใช้กองหลัง 3 ตัว
ช่วงครึ่งหลังทางผู้จัดการทีมได้ทำการเปลี่ยนตัวนักเตะสำรองและดาวรุ่ง ลงมาทั้งหมด และที่น่าสนใจมากที่สุด ก็จะเป็นระบบแผนการเล่น ฟุตบอล ที่ปรับมาใช้เป็นกองหลัง 3 ตัว ในระบบ 3-4-1-2 ถึงจะเป็นนักเตะสำรองและดาวรุ่งก็ยังมีการครอบครองเกมที่มากกว่าลิ้งดูบอล แต่ในจังหวะพื้นที่สุดท้าย ไม่สามารถเจาะทะลุแผงหลังเอฟเวอร์ตันเข้าไปทำประตูได้ แต่สิ่งที่ได้เห็นก็คือ ขุมกำลังสำรองของทีม ปีนี้ดูมีขุมกำลังที่ใหญ่ขึ้น ส่วนแผนการเล่นแบบใหม่ที่เราได้เห็นใน ครึ่งหลังของเกมนี้ คือใช้กองหลัง 3 ตัว สิ่งที่แฟนบอลทุกคนสัมผัสได้ ก็คือนักเตะทุกคนสามารถเข้าใจระบบ และทำผลงานออกมาได้ดี ทำให้ทีมปืนใหญ่ สามารถมีแผนการเล่นที่มากขึ้น เพื่อรองรับการเจอกับคู่แข่งที่หลายหลายได้
นักเตะ กาเบรียล เซซุส คือผู้ที่มาเปลี่ยนการเล่นในแนวรุก ให้น่ากลัวขึ้น มีมิติการเล่นที่หลายหลาย ทั้งการรุกและการรับในแนวบน เป็นผู้เล่นที่ยกระดับการเล่น ฟุตบอล ของทีมอย่างแท้จริง ช่วยในการหาช่องว่างในการทำประตู การวิ่งไล่คู่แข่ง รวมถึงการจบสเกอร์ ที่ทำได้ดีมาก เป็นนักเตะคุณภาพที่ อาเซนอลนั้นขาดหายไป การเข้ามาของ เซซุส เป็นการเติมเต็มของทั้งสองฝ่าย สโมสรก็ได้กองหน้าตัวอันตราย มีความสามาถ นักเตะก็ได้โอกาศเป็นตัวจริง และสามารถลงเล่นเพื่อทำประตูให้กับแฟนบอล อาเซนอล ทุกคน
